เพชรบูรณ์ จัดยิ่งใหญ่ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11” เฉลิมพระเกียรติ ส่งเสริมสุขภาพคนเมืองมะขามหวาน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05.30 น. ที่พุทธอุทยานเพชบุระ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิด “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดเพชรบูรณ์” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนร่วมกว่า 12,000 คน บรรยากาศคึกคักแต่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
ก่อนเริ่มพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้นำกล่าวถวายอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นดั่ง “แสงนำใจ” ของพสกนิกรชาวไทย
นายกฤษดา วุธยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ในนามคณะกรรมการจัดโครงการฯ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเพศหญิง และอันดับสามของเพศชาย โดยในจำนวนผู้ป่วย 100 คน มีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการสูงถึงร้อยละ 70 อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 หากประชาชนหันมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ออกกำลังเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No STROKE)” แบ่งเป็นการเดิน-วิ่ง 2 ระยะทาง คือ 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร มีผู้สมัครเข้าร่วมมากถึง 12,442 คน ถือเป็นอันดับ 4 ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยร่วมสร้างสุขภาพดีไปด้วยกัน
ด้านนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า โครงการนี้นอกจากจะเป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดตั้งโครงการด้านสุขภาพในพื้นที่ทุรกันดาร รวมถึงพระราชทานรถต้นแบบรักษาอัมพาตเคลื่อนที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ
“พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของประชาชนชาวไทยในการดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ประชาชนทุกคนจึงควรน้อมนำแนวทางนี้มาปฏิบัติ เพื่อให้มีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ” ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ
