วันเสาร์, 12 เมษายน 2568
/home2/cp449816/public_html/wp-content/themes/smartvariety_1.0.7/template-parts/search-form-xs.php on line 7
" placeholder="ค้นหา">

อำเภอหล่มเก่า และ สจป.4 พล. ชี้แจงกรณีไวรัล “เที่ยวยังไงให้ป่าหาย” บนผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก

เพชรบูรณ์ – จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพไวรัลเปรียบเทียบระหว่างปี 2559 และปี 2568 บนแพลตฟอร์ม Facebook ภายใต้ข้อความ “เที่ยวยังไงให้ป่าหาย…” ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าบริเวณ ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ล่าสุด อำเภอหล่มเก่า และ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก (สจป.4 พล.) ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

ดำเนินการจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่ป่า

อำเภอหล่มเก่าเปิดเผยว่า พื้นที่ที่ปรากฏในภาพไวรัลเป็นเขตที่คาบเกี่ยวระหว่าง อุทยานแห่งชาติเขาค้อ และ พื้นที่ป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการร่วมกันดำเนินการจับกุมผู้ก่อสร้างอาคารที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งส่งฟ้องผู้ต้องหาฐาน บุกรุกและทำลายพื้นที่ป่า

ผลการดำเนินคดี และสถานะของพื้นที่

สจป.4 พล. ได้ดำเนินการตรวจสอบและยึดพื้นที่ โดยมีการแจ้งดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า ได้แก่:

  • คดีอาญาที่ 213/2566 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 – พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
  • คดีอาญาที่ 214/2566 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 – พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
  • คดีอาญาที่ 282/2566 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 – พนักงานอัยการมีคำสั่งให้งดการสอบสวน

พนักงานอัยการให้เหตุผลว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอ และพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตที่ได้รับการจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัยและทำกินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2509 ส่งผลให้ผู้ต้องหาเข้าใจโดยสุจริตว่ามีสิทธิ์ทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว

ป้องกันการบุกรุกซ้ำ – ติดป้ายประกาศแจ้งเตือน

แม้ว่าพนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่ สจป.4 พล. ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีสถานะเป็น พื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งอยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายประกาศแจ้งเตือน ว่าการกระทำใด ๆ ในพื้นที่นี้ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

สถานะทางกฎหมายของพื้นที่ภูทับเบิก

พื้นที่ดังกล่าวถูกจัดสรรให้เป็นนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาตามมติ ครม. ปี 2509 แต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีการรองรับ ทำให้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่มีอำนาจจัดสรรพื้นที่ให้ราษฎร และ พื้นที่ยังคงมีสถานะเป็นป่าตามกฎหมาย

มาตรการต่อไปของภาครัฐ

สจป.4 พล. จะส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม และดำเนินการตามกฎหมายเพื่อป้องกันการบุกรุกป่าต่อไป